“การตรวจเอชไอวี” คือ การนำสารคัดหลั่งจากร่างกายไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี ในห้องปฏิบัติการ โดยสามารถเก็บตัวอย่างได้จากการขูดเซลล์หรือน้ำลายในช่องปาก แต่ที่นิยมในปัจจุบันก็คือการตรวจจากเลือด ซึ่งมีให้บริการทั่วไปตามคลินิกและโรงพยาบาลต่างๆ
เอชไอวี คืออะไร ?
เอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus) เป็นเชื้อไวรัสที่ ทำลายระบบภูมิคุ้มของร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานบกพร่อง จึงไม่สามารถต่อสู้ป้องกันหรือกำจัดการติดเชื้อได้ตามปกติ หากติดเชื้อเอชไอวีแล้วจะไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสออกจากร่างกายได้ แต่สามารถควบคุมเชื้อไวรัสได้ โดยการรับการรักษา ปัจจุบันนี้ได้มีการรักษาเพื่อยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสและผู้ที่ได้รับการรักษาสามารถมีชีวิตอยู่ได้เหมือนคนปกติทั่วไป
เอชไอวี (HIV) ติดต่อทางไหน ?
- ติดผ่านทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน
- ติดผ่านทางสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น เลือด น้ำเหลือง น้ำอสุจิ
- ติดผ่านเลือดโดยการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
- ติดจากแม่สู่ลูก การติดเชื้อระหว่างตั้งท้อง ระหว่างคลอด รวมถึงการให้นมบุตร
“เอชไอวีไม่ติดผ่านทางน้ำลาย ปัสสาวะ น้ำตา หรือเหงื่อ”
ใครบ้างที่ควรตรวจเอชไอวี
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
- ผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
- ผู้ที่ใช้เข็มร่วมกันกับผู้อื่น
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ป่วยวัณโรค
- ผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การตรวจเอชไอวี มีกี่แบบ ?
การตรวจแบบ Antigen หรือ HIV p24 Antigen Testing
การตรวจหาโปรตีนของเชื้อที่มีชื่อว่า p24 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ติดเชื้อในระยะแรก ที่ร่างกายยังไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ (Antibody) ตรวจได้หลังมีความเสี่ยง ตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป
การตรวจแบบ Antibody หรือ Anti-HIV Testing
การตรวจภูมิคุ้มกัน ของร่างกายที่สร้างขึ้นมาเมื่อมีเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกาย ตรวจได้หลังมีความเสี่ยง ตั้งแต่ 21 วันขึ้นไป จะใช้สำหรับผู้ติดเชื้อทั่วไปที่ต้องการรู้ผลตรวจที่รวดเร็ว และแม่นยำ
การตรวจแบบใช้น้ำยา Gen 4th (Fourth Generation)
ซึ่งเป็นการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในแบบที่ 1 และ 2 ในครั้งเดียวกัน ปัจจุบันจะนิยมตรวจด้วยวิธีนี้ เพราะสามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยง ตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป
การตรวจแบบแนท (NAT)
การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นวิธีที่มีความรวดเร็วมาก สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงตั้งแต่ 5-7 วัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้ตรวจซ้ำอีกครั้ง 1 – 3 เดือน เพื่อยืนยันผลตรวจ
ข้อดีของการตรวจเอชไอวี
- สามารถวางแผนการมีครอบครัวได้
- สามารถป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อเอชไอวีได้
- สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันที ไม่ต้องรอให้แสดงอาการ
- ตรวจพบเร็ว รักษาเร็ว จะทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
- สามารถวางแผนป้องกันไม่แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวี และการป้องกันได้อย่างถูกต้อง
ขั้นตอนการตรวจเอชไอวี
- แจ้งเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์คลินิก เพื่อขอรับการตรวจเอชไอวี
- เจ้าหน้าที่อาจซักประวัติเพื่อประเมินความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี
- เจาะเลือดบริเวณข้อพับแขน แล้วส่งเข้าตรวจหาเชื้อในห้องปฏิบัติการ
- แจ้งผลตรวจ ซึ่งระยะเวลาในการแจ้งผลขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลนั้นๆ
กรณีที่ผลเลือดเป็นบวก
แพทย์จะแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง และแนะนำการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เช่น ตรวจค่า CD4 หรือการตรวจร่างกายเพื่อประเมินความพร้อม เมื่อต้องกินยาต้านไวรัส
กรณีที่ผลเลือดเป็นลบ
แพทย์อาจพูดคุยหรือแนะนำแนวทางการลดความเสี่ยงในอนาคต เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การใช้ยาเพร็พ(PrEP) การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ หรือแนะนำให้มีการตรวจหาเชื้อเอชไอวี ในกรณีมีความเสี่ยงทุก 3-6 เดือน
เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ตรวจเอชไอวีได้ที่ไหน ?
สำหรับชาว เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ที่ต้องการ ตรวจคัดกรองเอชไอวี รักษาเอชไอวี หรือ รับยาต้านไวรัสเอชไอวี สามารถเข้ารับบริการได้ที่ คลินิกหมอวีรพงศ์ เกาะสมุย ให้บริการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พร้อมให้การดูแลตรวจและรักษาทุกท่านอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ท่านได้เข้าถึง การตรวจ และการรักษา เอชไอวีได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม
ช่องทางการติดต่อเรา
- สอบถามเพิ่มเติมกับเราที่นี่ คลินิกหมอวีระพงศ์
- Line ID : @wrpclinic
- E-mail : wrpclinicgyn@gmail.com
- โทร : 092-928-6888
- เปิดให้บริการทุกวัน 12.00 – 20.00 น.
- แผนที่คลินิก https://goo.gl/maps/bSknah63pqrNLPwVA