เริมเป็นโรคที่ไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง แต่ก็ไม่ควรไว้วางใจ เพราะเริมเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ง่าย ผู้ที่มีเชื้อส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ทำให้สังเกตและป้องกันได้ยาก ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด ดังนั้นหากใครที่มีอาการของโรคเริม ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
เริม คืออะไร ?
เริม เกิดจากการติดเชื้อไวรัส (Herpes Simplex Virus) ทําให้เกิดตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกลุ่มประมาณ 2 – 10 เม็ด และเกิดแผลขึ้นที่บริเวณผิวหนังหลายส่วนบนร่างกาย เช่น ริมฝีปาก หรืออวัยวะเพศ เริมสามารถติดต่อได้ง่ายหลายช่องทาง เช่น การสัมผัส หรือติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ เริมเป็นโรคเรื้อรังที่อาจกลับมาเป็นซ้ำได้ทุกเมื่อหากร่างกายอ่อนแอ
เชื้อไวรัส Herpes Simplex Virus ที่เป็นสาเหตุของเริมมีอยู่ 2 ชนิด
- Herpes Simplex Virus-1 มักพบการติดเชื้อบริเวณเยื่อบุริมฝีปาก ในช่องปาก หรือใบหน้า
- Herpes Simplex Virus-2 มักพบการติดเชื้อบริเวณบริเวณอวัยวะเพศภายนอกและในช่องคลอด

เริม อาการเป็นอย่างไร ?
อาการของเริม ค่อนข้างคล้ายกันโดยจะมี ตุ่มน้ำใสบริเวณที่ติดเชื้อ ได้แก่ ปาก อวัยวะเพศ ทวารหนัก บั้นท้าย หรือต้นขา มีอาการเจ็บปวด แสบที่บริเวณแผล หากเป็นการติดเชื้อครั้งแรกจะมีอาการค่อนข้างรุนแรงและหายช้า แต่ถ้าหากเป็นการติดเชื้อซ้ำ อาการจะไม่รุนแรงและหายได้เร็วกว่า
ปัจจัยกระตุ้น เริม กลับมาเป็นซ้ำ
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
- มีความเครียด
- มีการผ่าตัด
- ทำ laser บริเวณนั้น
- การโดนแสงแดดเป็นเวลานาน
- การมีรอบเดือน
เริม สามารถป้องกันได้อย่างไร ?
- หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้ป่วย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อโดยตรงกับผู้ป่วย เช่น การหอมแก้ม และการจูบ
- มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
- หากเป็นเริมที่อวัยวะเพศ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายสนิท
สำหรับผู้ป่วยที่เคยมีการติดเชื้อมาก่อน ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเนื่องจากเชื้อไวรัสจะโจมตีร่างกายเมื่อภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ถ้าหากมีสุขภาพที่แข็งแรงก็จะช่วยให้การติดเชื้อลดลงได้

เริม รักษาได้อย่างไร ?
ปัจจุบันเริมเป็นโรคที่ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยหลัก ๆ แล้วการรักษาเริมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
- การบรรเทาอาการเจ็บปวด โดยแพทย์อาจสั่งยาบรรเทาอาการปวด ซึ่งแผลจากเริมจะสามารถหายเองได้ภายในเวลา 2-6 สัปดาห์
- การควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส โดยปกติแล้วเมื่อมีอาการของเริม แพทย์มักจะสั่งใช้ยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) หรือยาวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส และช่วยลดความรุนแรงของอาการ โดยยาเหล่านี้จะอยู่ในรูปของยาชนิดรับประทาน นอกจากนี้ ยาที่มีส่วนประกอบของอะไซโคลเวียร์ที่อยู่ในรูปแบบครีมสำหรับทา ก็ยังนิยมนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการของเริมในขณะที่เป็นได้ด้วย
ในเกาะสมุย สามารถรักษา เริม ได้ที่ไหน ?
สำหรับชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ที่ต้องการ รักษาเริม สามารถเข้ารับบริการได้ที่ คลินิกหมอวีระพงศ์ เกาะสมุย ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่พร้อมให้การดูแลตรวจและรักษาทุกท่านอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ท่านได้เข้าถึงการรักษา “เริม” ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ขอบคุณข้อมูล : pobpad ,fascino
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม
ช่องทางการติดต่อเรา
- สอบถามเพิ่มเติมกับเราที่นี่ คลินิกหมอวีระพงศ์
- Line ID : @wrpclinic
- E-mail : wrpclinicgyn@gmail.com
- โทร : 092-928-6888
- เปิดให้บริการทุกวัน 12.00 – 20.00 น.
- แผนที่คลินิก https://goo.gl/maps/bSknah63pqrNLPwVA
- เว็บไซต์ www.weerapongclinic.com