ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดย วีระพงษ์คลินิก

ตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก โดย วีระพงษ์คลินิก

จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ในแต่ละปีผู้หญิงไทยจะตรวจพบมะเร็งปากมดลูกประมาณ 6,000-8,000 คน และเฉลี่ยแล้วจะเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูก 8-10 คน/วัน ซึ่งนับว่าเป็นข้อมูลอ้างอิงให้สะท้อนได้ชัดว่า มะเร็งปากมดลูก คือโรคที่ผู้หญิงควรป้องกัน รวมถึงควรตรวจคัดกรองเพื่อลดความเสี่ยงตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยทั่วไปผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว มักมีโอกาสติดเชื้อ HPV หนึ่งครั้งประมาณ 80-90% ทั้งนี้อาจเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่ก็ได้

มะเร็งปากมดลูกคืออะไร ?

มะเร็งปากมดลูก ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส เอชพีวี (HPV) ซึ่งมักจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เมื่อร่างกายได้รับเชื้อ HPV เป็นครั้งแรก ระบบภูมิคุ้มกันจะพยายามปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อไวรัส อย่างไรก็ตามเชื้อ HPV อาจทำให้เซลล์ที่ปากมดลูกเกิดความผิดปกติและกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด

สาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อที่มีชื่อว่า Human papilloma virus : HPV เป็นเชื่อที่ติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ จากการวิจัยพบว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์จะเคยได้รับเชื้อ HPV แต่โดยปกติแล้วร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้ ซึ่งจะมีบางส่วนที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อนี้ได้ รวมไปถึงสาเหตุจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก จนนำไปสู่มะเร็งปากมดลูกและโรคอื่น ๆ ได้ในที่สุด ทั้งนี้ความเสี่ยงของการเกิดโรคที่นอกเหนือจากเชื้อ HPV ประกอบด้วยสาเหตุหลักดังต่อไปนี้

  • มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (ติดเชื้อเอชไอวี)
  • ผ่านการมีบุตรจำนวนมาก
  • สูบบุหรี่
  • การเปลี่ยนคู่นอนหลายคน ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HVP
  • อายุตั้งแต่ 40 ปี
  • ไม่เคยเข้ารับการตรวจภายในเพื่อตรวจมะเร็งปากมดลูก ระยะ Precancercous lesion หรือ ระยะก่อนเป็นมะเร็ง โดยหากตรวจพบในระยะดังกล่าวจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ซึ่งระยะนี้มักจะไม่แสดงอาการเห็นสังเกตได้ชัดเจน จึงเสี่ยงต่อการลุกลามได้นั่นเอง
การตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก มีความสำคัญอย่างไร

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีความสำคัญอย่างไร?

ผู้หญิงที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทุกคน ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากเป็นแนวทางการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเป็นการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก เพื่อหารอยโรคในระยะก่อนก่อตัวเป็นมะเร็ง หรือ ทราบถึงภาวะมะเร็งระยะเริ่มแรก ให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที การตรวจคัดกรอกมะเร็งปากมดลูก จะทำการตรวจหาเซลล์ด้วยวิธีทางเซลล์วิทยา Pap smear ซึ่งแพทย์จะตรวจความผิดปกติของรอยโรคระหว่างที่ทำการตรวจภายใน 

อย่างไรก็ตามหากเคยเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกแล้ว ควรตรวจซ้ำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่พบรอยโรค หรือ ภาวะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่มีแนวทางป้องกัน จึงทำให้การตรวจคัดกรองเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด

จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก?

เมื่อคุณเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก หากว่าแพทย์ทำการตรวจแล้วพบว่าผลเซลล์วิทยามีความผิดปกติ อาจต้องใช้วิธีการส่องกล้องขยายดูบริเวณปากมดลูก หลังจากนั้นจะทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติต่อไป ซึ่งผลการตรวจจะทำให้ทราบว่าความผิดปกตินั้น เป็นระยะก่อนมะเร็ง หรือ ลุกลามสู่ระยะมะเร็ง โดยหลักการรักษาแล้วหากตรวจพบว่าเป็นรอยโรคระยะก่อนมะเร็ง จะทำการรักษาด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การจี้ความเย็น หรือ การตัดชิ้นเนื้อปากมดลูกด้วยห่วงไฟฟ้า เป็นต้น       

มะเร็งปากมดลูกมีทั้งหมดกี่ระยะ

ตามหลักทางการแพทย์ได้แบ่งมะเร็งปากมดลูกออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้

  • ระยะที่ 1 : ระยะต้น : ระยะนี้มะเร็งจะอยู่บริเวณปากมดลูก
  • ระยะที่ 2 : ระยะกลาง : ระยะที่มะเร็งลุกลามไปสู่ด้านในของปากมดลูก
  • ระยะที่ 3 : ระยะกลาง : ระยะที่มะเร็งได้ลุกลามไปสู่อุ้งเชิงกราน
  • ระยะที่ 4 : ระยะสุดท้าย : ระยะที่มะเร็งได้กระจายตัวไปยังอวัยวะอื่นในร่างกาย เช่น กระเพาะปัสสาวะ ทวารหนัก ตับ ปอด กระดูก เป็นต้น
การรักษา มะเร็งปากมดลูก มีทั้งหมดกี่วิธี

การรักษามะเร็งปากมดลูกมีทั้งหมดกี่วิธี?

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้ค้นพบวิธีการรักษามะเร็งปากมดลูก 3 วิธี ซึ่งขึ้นอยู่กับพิจารณาของแพทย์ผู้รักษา หลังจากที่ได้ประเมินความรุนแรงของโรคเรียบร้อยแล้ว

  • การผ่าตัด : ใช้ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 และระยะที่ 2 โดยการผ่าตัดเพื่อเอาปากมดลูก มดลูก และช่องคลอดส่วนต้น รวมถึงต่อมน้ำเหลืองในบริเวณที่พบรอยโรคออก เพื่อหยุดยั้งการลุกลามไปสู่บริเวณอื่น ๆ 
  • การใช้ยาเคมีบำบัด : ใช้ในการรักษาควบคู่กับวิธีการอื่น ๆ เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ว่าความรุนแรงของโรคมากน้อยแค่ไหน โดยการใช้ยา หรือ รังสี ในการรักษามะเร็งปากมดลูก
  • การใช้รังสี : ใช้ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก ตั้งแต่ระยะที่ 2 เป็นต้นไป โดยแพทย์จะเลือกใช้วิธีนี้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อน หรือ มีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย จึงส่งผลให้ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้

การป้องกันและดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจาก มะเร็งปากมดลูก

โรคมะเร็งปากมดลูก ยังไม่สามารถป้องกันได้ 100% ดังนั้นจึงทำได้โดยการเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงต่อส่งเสริมภูมิต้านทานที่ดีให้กับร่างกาย
  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
  • หลีกเลี่ยงความเครียด ลดความเสี่ยงจากที่ความเครียดกดภูมิคุ้มกันร่างกาย ที่ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่
  • งดสูบบุหรี่ เนื่องจากสถิติพบว่า ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากว่าผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 3 เท่า ทั้งนี้รวมไปถึงการสูดดมบุหรี่ก็ส่งผลให้เกิดมะเร็งได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกเพื่อป้องกันเชื้อ HPV จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้

วีระพงษ์คลินิก ให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และให้คำปรึกษาสุขภาพสตรีทุกวัยอย่างครบวงจร เพื่อให้สามารถเข้าถึงการตรวจรักษาได้อย่างสะดวก ป้องกันโรคหรือภาวะเสี่ยงต่าง ๆ ได้ปลอดภัย ด้วยความเชี่ยวชาญด้านสูตินรีแพทย์โดยตรง พร้อมทีมพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน มีความทันสมัย และให้การบริการอย่างเป็นกันเอง

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม

ช่องทางการติดต่อเรา